ท่องเที่ยวกับ ' ป๋าคมรัฐ ' > ป๋าพาวิ่ง ปั่น

24 - 25 พ.ค. ซ้อมวิ่งเขาใหญ่ นครราชสีมา

(1/3) > >>

Pa Khomrat:
      จากการที่พวกเรา ลงชื่อ   วิ่งมหาสมุทร  สู่ มหาสมุทร ในวันที่ 14 - 15 มิ.ย. 57  กัน 40 คน  ส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคยเจอกัน เรามาจัดทริป เพื่อทำความรู้จัก ลองฝึกซ้อมวิ่งตามถนน ขึ้น เขา ลงเขากันก่อน สักครั้ง ขอเลือก ที่เขาใหญ่ วันเสาร์ - อาทิตย์ที่  24 -25 พ.ค. 57

  ....   เรานัดกันออกเช้าวันเสาร์ นัดกัน 6.00 น.  จะได้ไปถึงไม่สายมากเกินไป ไม่เกิน 10 น. ไปกางเต๊นท์ นอนที่ผากล้วยไม้  ....  คืนวันเสาร์   

  ....   เย็น ๆ  5  โมงเย็น วันเสาร์ลองซ้อมวิ่งกัน  ระยะทาง 4 - 5 กม บนถนนมี ขึ้นเนิน ลงเนิน   

  ....   เช้าวันอาทิตย์ ตื่น ตี 5  เริ่มวิ่ง   6.30 น. เราลองไปวิ่งพร้อมกันทั้งหมด  วิ่งขึ้นลงเขากัน ประมาณ 1 - 1.20 ชั่วโมง  เอาระยะเพียง  10 กม  บนเขาใหญ่ทางจะขึ้นลงมากกว่า   

  ....   สาย ๆ  ทานอาหาร   จัดแบ่งทีม  จัดไม้ 1 - 8 ของแต่ละทีม   บ่ายๆ แยกย้ายกันกลับบ้าน

  ....   เช่่ารถตุ้ไป 2 วัน  + ค่าน้ำมัน   เฉลี่ยค่ารถ คนละ 500 บาท  หรือใครจะขับรถไปเองก็ได้   ค่าใช้จ่ายก็เฉลี่ยกันไป   ส่วนอาหารค่ำวันเสาร์  ป๋าจัดไปให้ ฟรี   

  ....   ใครไปได้ ลงชื่อกัน  ระบุด้วยจะไปเอง หรือไปรถตู้  จะได้รถตู้ได้ถูก

  ....   ต้องการสต๊าฟ มีจุดให้น้ำ 3 จุด   

Pa Khomrat:
อีม  ....   ส่งมาให้อ่าน

  การฝึกเป็นเพียงปัจจัยเดียวในบริบทวิ่งทั้งหมด
      โดย กฤตย์ ทองคง

 แม้การฝึกวิ่งจะเป็นเพียงปัจจัยหลักของการพัฒนาวิ่ง
 แต่ในอีกด้าน การฝึกวิ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคสำหรับการวิ่งเสียเอง
 หากมีการจัดการที่ไม่ดี ที่พบเห็นมากคือ "วิ่งมากเกินไป"

 นักวิ่งมักเข้าใจเอาว่า ยิ่งฝึกมาก ยิ่งฝึกเร็ว ยิ่งฝึกไกล อุทิศทุ่มเท
 ยิ่งมีโอกาสสำเร็จในโลกของการวิ่งมากยิ่งขึ้น
 นี้เป็นเพียงปัจจัยเดียว ของปัจจัยการวิ่งดีทั้งหมด

  คนเราจะวิ่งได้ดี ก็ต่อเมื่อเข้าสู่โหมดสมดุลระหว่างพหุปัจจัย
 มันคือ การพักผ่อนที่ดี การฟื้นตัวที่เป็นเลิศ
 อาหารที่บริโภคเข้าไปควรเป็นตัวสนับสนุนให้เกิดปัจจัยวิ่งที่ดีด้วย
 อีกทั้งอารมณ์ และทัศนคติความเข้าใจที่มีต่อโลกและชีวิตเหมาะสมอีกชุดหนึ่ง

 การตะกุยตะกายฝึก การเพิ่มปริมาณระยะทางเข้ามาในแผนฝึก ย่างฮวบฮาบ
 ปราศจากเวลาซึมซับ และปราศจากทั้งเวลาในการพักฟื้นคืนตัวที่พอเพียง
 จะผลักไสตำแหน่งของนักวิ่งให้เข้าไปใกล้ภาวะบาดเจ็บมากขึ้น

 พอเจ็บแล้วก็ยาว กว่าจะกลับมาวิ่งได้ใหม่ก็เจิ่น จนไม่อยากวิ่งแล้ว
 นี้คือความเป็นจริง ส่วนใหญ่อดทนต่ออความเย้ายวนที่เสพติดจาก
 เอนโดฟินส์ไม่ไหว กลับเข้าสนามซ้อมอีกแล้ว
 ทั้งๆที่ความบาดเจ็บยังแอบซ่อนอยู่ในกลีบเนื้อและแก่นกระดูก

 วิ่งไปได้ไม่เท่าไร มารร้ายก็ออกมาโชว์ตัว หน้าเศร้ากลับไปพักต่ออีก สองสามวัน
 ก็ออกมาซ้อมใหม่ แล้วมันก็กลับมาอีก สลับไปสลับมาอย่างนี้
 อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะเลิกวิ่งถาวร

 เป็นอย่างนี้รายแล้วรายเล่า ซ้ำซากน่าเบื่อ

 นักวิ่งต้องทำความเข้าใจว่า องค์ชีวิต กว่าจะปรับเปลี่ยนจาก
Sedentarian มาเป็น Runner เพื่อก่อการสุขภาพหรือเพื่อแข่งขันนั้น
 ต้องการเวลาค่อยๆสะสมเพิ่มความแข็งแกร่งไม่ใช่จะฟุตฟิตฟอไฟได้เพียงไม่กี่เดือน

การเป็นนักวิ่งนั้นไม่ยาก แต่การยังรักษาสภาพการวิ่งได้ตลอดเวลาหลายปี
 รวมถึงตลอดอายุขัยนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่ากันเยอะเลย

 คำถามสำคัญสำหรับนักวิ่งผู้ฝึกรักความก้าวหน้าอยู่เสมอก็คือ
 เราจะสามารถถือครองแผนฝึกและแนวปฏิบัติออกกำลังกายนี้ให้ยั่งยืนต่อไปได้กี่เดือน กี่ปี
 เมื่อย่างเข้าวัยกรอกใบสมัครสนามวิ่งรุ่น 60 ปี เราจะยังสามารถสมัครได้หรือไม่
 อย่าต้องให้ถึงกับถามเลยว่า จะได้รางวัลประจำรุ่นหรือเปล่า?

 หากความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์การวิ่ง ไม่สามารถเจนจบได้ภายในสัปดาห์เดียว
 เราก็ควรวิ่งกันในท่วงท่าสงวนร่างกายไว้รับการฝึกจากความรอบรู้ในอนาคต

 ไม่ใช่มาเห็นไม้งามเอาเมื่อขวานบิ่น

 ร่างกายสิ้นสภาวะ รับการฝึกหนักใดๆไม่ได้อีกแล้ว
 จากการตะบี้ตะบันฝึกในแบบอย่างผิดๆมาในรอบปีแรกๆของการวิ่ง
 ความรู้ที่มาทีหลัง แทนที่จะได้ประโยชน์กับตัวเอง กลับไม่มีความหมาย

 จงตั้งใจสดับตัวอย่างรายทางจากเพื่อนนักวิ่งผู้มาก่อนให้มากๆ
 ว่าที่เขาวิ่งแบบนั้นแล้วได้อะไรในท้ายที่สุด
 อย่าหลงปลื้มกับความเย้ายวนจากความสำเร็จเฉพาะหน้า
 โดยไม่หวนทบทวนเป้าหมายใหญ่ของการตัดสินใจมาวิ่งในวันแรกๆ

11.45 น.
5 มีนาคม 2557
สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร

-=Jfk=-:
เอ๊ะว่าตอบแล้ว หายไปไหนหว่า อิๆ

ตอบใหม่ ผมไปด้วยครับ ไปเอง เจอกันที่จุดกางเต๊นต์ครับ

ป๋าครับ เรื่องซ้อมวิ่งผมว่า หาจุดที่ชัน หรือ ราบพอประมาณ ซัก 5 กม. แล้วออกวิ่งไปพร้อมๆกันเลย ซักช่วง เพื่อลองดูฝีเท้า และกะจังหวะการวิ่ง แล้ว นำมาจัดตัวกันดีมั้ยครับ จะได้ประเมินกำลังกันได้ :)

ลุงกฤตย์ คนเขียนบทความข้างบน แกเพิ่งโทรมาตามผมวันก่อนว่า หายไปไหนไม่ได้วิ่ง นานเลย บอกแกเหมือนกัน ว่าจะมาวิ่งงานนี้

แกเองช่วงนี้ก็งดลงสนามใหญ่แต่ยังซ้อมและเขียนบทความเรื่อยๆ

ยังติดหนี้แกว่าผมเกษียร เมื่อไร จะวิ่งจากนครสวรรค์ บ้านผม กับ แก ไป หลวงพระบางกัน

คุยกันแล้ว ว่า ถ้าจะเอาต้องเตรียมให้พอ

ต้องมี ครบหลายๆอย่าง
มี สต๊าฟ ทีมงานพร้อม
มี สตั๊ดดี้( Study)ศึกษาทุกเส้นทาง
มี สตรอง (Strong ) ความแข็งแรง)
มี สตางค์ (ทุน)

และ ที่สำคัญ ต้อง ขาด "สติ"

คนดีๆ เค้าไม่ทำกัน อิๆ

Pa Khomrat:
   หมอเจ   ไม่ต้องรอเกษียร  อยากไปก็ไปเลย  จาก ตาคลี ไป หนองคาย ต่อด้วย หนองคาย - หลวงพระบาง ระยะทางประมาณ 1000 กม วิ่งกัน 20 วัน ๆ ละ  50 กม  ช่วงคงพอ  :o :o

   ทริปเขาใหญ่เอาอย่างหมอว่าก็ได้ จัดการง่าย วิ่ง พร้อมกันวันเสาร์ ประมาณ 17.30 น. แดดร่ม แล้ว วิ่งพร้อมกัน ระยะทาง 4 - 5 กม

   ส่วนวิ่งวันอาทิตย์   ช่วงเช้า 6.30 น.  ควรลองวิ่งเต็ม 10 กม  สักครั้ง  ก่อนออกวิ่งวันจริง 3 อาทิตย์ต่อไป   

    สมาชิกที่ จะมาวิ่งด้วย

   ไปรถตู้ ป๋า .....   ว่าจะออกคืนวันศุกร์  นั่งได้ 8 คน  มีกองเชียร์ไปด้วย  มี  ... ป๋า  เอ  นัท 
   ไปเอง  ........ นเรศ  แมว  หมอเจ 

Nakorn Charlie:

ไปด้วยคน ว่าแต่  ตอนนี้มีกี่คนแล้วครับ  รถป๋าไม่เต็มก็จะติดไปด้วย  แต่ถ้าเต็ม จะได้ขับรถไป  ใครจะเอาจักรยานไป ก็น่าสนนะครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version