From Kunming to Chengdu 2 (เต๋อชิง,แชงกรีล่า,ย่าติง,เฉิงตู)

[coming soon]

88 ก่อนถึงแชงกรีล่าเมืองหน้าด่านย่าติง ก็แวะให้ถ่ายรูปที่วัดอีกครั้ง
89 เข้าไปไหว้พระในวัด
90 ที่ทำการอุทยานย่าติงอยู่ที่เมืองแชงกรีล่า(เดิมชื่อรื่อหวาriwa แต่มาเปลี่ยนชื่อเป็นshangri laภายหลัง) ทำให้จีนมีสองแชงกรีล่า ที่ยูนนานเป็นแชงกรีล่าแรก เปลี่ยนชื่อมาจากจงเตี้ยนZhongdian ส่วนแชงกรีล่าที่เสฉวนเปลี่ยนชื่อมาจากรื่อหวา ที่นี่เราต้องซื้อบัตรเข้าย่าติงราคา150หยวน และบัตรรถบัสราคา120หยวน รวมเป็น270 หยวน ซื้อแล้วก็เดินเข้าไปขึ้นรถบัสของอุทยานเพื่อเข้าสู่ย่าติงกันเลย

[coming soon]

91 ที่ทำการอุทยานย่าติงในแชงกรีล่า ห่างจากตัวอุทยานย่าติงประมาณ40กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ เพราะเป็นทางไต่เขา ลัดเลาะทางคดเคี้ยว
92 รถบัสจะจอดตรงจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันก่อน
93 เห็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามยอด

[coming soon]

94 งดงาม
95 ก่อนถึงอุทยานจะผ่านหมู่บ้านย่าติงก่อน ซึ่งถ้าใครจะพักก็จะแวะลงตรงนี้ แล้วต่อรถบัสเข้าอุทยานอีกสิบกว่านาที แต่เนื่องจากวันนี้ฟ้าใสกิ๊ก จากเดิมที่เราจะแพลนว่าจะเทรคไปทะเลสาบน้ำนมในวันรุ่งขึ้น ก็เปลี่ยนเป็นเทรควันนี้ดีกว่า เพราะคาดว่าพรุ่งนี้จะฟ้าเน่า เพราะตั้งแต่มาฟ้าใสสลับกับฟ้าเน่าอย่างละวัน สองสาวว่าไงว่าตามกัน เดิมที่จะลงไปเข้าโรงแรมฝากกระเป๋าก่อน ก็นั่งยาวไปลงที่ย่าติงเลยจะได้ไม่เสียเวลามาก แล้วค่อยเข้าโรงแรมตอนเย็น ปลายทางรถบัส พอลงต้องเดินขึ้นเนินทางซ้ายมือ(เดินตามๆคนอื่นไปนั่นแหละ)ประมาณสัก2-300เมตรเพื่อไปจุดซื้อตั๋วรถไฟฟ้าเข้าไปทุ่งเลี้ยงสัตว์ลั่วหรง  ค่าตั๋วไปกลับ80หยวนกับระยะทางขาละ6.5กิโลเมตร ซื้อตั๋วเสร็จก็จัดการฝากของที่ร้านชำใกล้ๆในราคาเป้ใบละ20หยวน มีออกใบเสร็จ ติดแท็กให้เรียบร้อย
96 รถไฟฟ้าที่จะพาเราไปทุ่งหญ้าลั่วหรง

[coming soon]

97 ถ้าไม่ไปรถไฟฟ้า ก็มีทางเดินอย่างดีตลอดเส้นทาง เดินไป ชมวิวไปได้เหมือนกัน(ไม่ต้องเสียตังค์ด้วย)
98 ปลายทางก็เริ่มออกเดินเพื่อเทรคไปสู่ทะเลสาบน้ำนม
99 ทางเดินอย่างดีที่ทุ่งลั่วหรง

[coming soon]

100 ลำธาร ตัดกับทุ่งหญ้า ภูเขาสีน้ำตาล ภูเขาหิมะ และฟ้าใสๆ
101 ยอดเขาเซียนั๋วตัวจี๋ ยอดเขาทรงพีระมิดที่เป็นตัวแทนของพระวัชรปาณีโพธิสัตว์ 
102 ทิวทัศน์ระหว่างทาง เพลิดเพลินเจริญใจ

[coming soon]

103 ระหว่างทางเจอนักท่องเที่ยวชาวไทยอีกหลายกลุ่ม
104 ยอดเขาระหว่างทางเดิน
105 ทางเดินชัดเจนตลอดเส้นทาง

[coming soon]

106 ใช้เวลาเกือบๆสองชั่วโมงก็มาถึงปลายทางของเรา ทะเลสาบน้ำนม
107 Milk Lake ในหลายๆมุม
108 สีน้ำสวยมาก แวะทานอาหารกลางวัน เป็นแอปเปิ้ลลูกใหญ่ที่ซื้อมาจากเต้าเฉิงที่นี่

[coming soon]

109 ตั้งใจจะเดินต่อไปทะเลสาบห้าสี จำได้ว่าอยู่ใกล้ๆกัน มีคนจีนกลุ่มนึงเดินขึ้นสันเขาไป ก็เดินตามอย่างไม่รีรอ โดยไม่สังหรณ์ใจสักนิดว่าไปผิดทาง ยิ่งเดินยิ่งไกลออกไป
110 นำทีมโดยอาเฮียสองคน คู่หนุ่มสาวจีนอีกคู่ หมวยเล็กเสื้อม่วง และกะเหรี่ยงไทยอีกคน รวม6คน เดินขึ้นสันเขาห่างออกไปเรื่อยๆจนเกือบจะข้ามพาส มีอาเจ่กคนจีนเดินสวนมาบอกว่าพวกมรึงมาผิดทางแล้ว กลับๆ เท่านั้นแหละวงแตก หันหัวกลับกันแทบไม่ทัน เสียเวลาไปเป็นชั่วโมงกับการหลงทางครั้งนี้ แต่กลับมาดูรูปก็ไม่เสียใจ เพราะได้มุมมองทะเลสาบน้ำนมที่แปลกออกไป
111 เดินย้อนกลับทางเดิมจนผ่านทะเลสาบน้ำนมมาจึงเห็นป้ายเล็กๆที่ไม่สะดุดตาเลยชี้ทางไปทะเลสาบห้าสี(ถ้ามาจากลั่วหรงป้ายอยู่ก่อนถึงทะเลสาบน้ำนม) ชี้ไปทางขวาซึ่งต้องข้ามเนินไปนิดนึง เดินขึ้นไปสัก15-20นาทีก็ถึงแล้ว แล้วที่เดินไปเป็นชั่วโมงคืออัลไล?(บื้อแล้วยังไม่ยอมรับ) เดินไปตามทาง ชวนเฮียสองคนมาด้วยก็ไม่มา คู่หนุ่มสาวก็ไม่มา มีหมวยเล็กคนเดียวที่ตามมาเป็นเพื่อน

[coming soon]

112  ถึงแล้วทะเลสาบห้าสี ถ้าไม่หลงคงมาถึงนานแล้ว
113 หมวยเล็กพอถึงไม่สนใจใคร คว้าคฑาเซลฟี่ประจำตัว ถ่ายท่าคิคุโนะเนะน่ารักเป็นสิบ เอียงคอ ชุสองนิ้ว พ้อยเท้า บิดเอว ไม่สนใจเฮียที่ชวนมาด้วยเลย
114 ขากลับวิ่งหน้าตั้งลงเขากับหมวยเล็ก กลัวเพื่อนๆทั้งสามรอ ผ่านอาเฮียสองคนกับและคนไทย ก็ขออนุญาตวิ่งแซง เจอฝูงกวางก็ถ่ายไปวิ่งไป ภาพเลยเบลอมาก ไม่มีดีสักภาพ

[coming soon]

115 หมวยเล็กกับคู่หนุ่มสาวที่หลงด้วยกันก็จ้ำอ้าวเหมือนกัน เห็นปลายทางอาคารตรงที่รถไฟฟ้าจอดรออยู่ลิบๆ
116 แต่ก่อนที่นี่เคยพักได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่อนุญาตแล้ว แต่ยังมีอาคารที่พักเหลืออยู่
117 ทางเดินกลับไปจุดจอดรถไฟฟ้าตรงอาคารสีขาวลิบๆที่ทุ่งลั่วหรง

[coming soon]

118 รถไฟฟ้าชุดท้ายๆที่รอเก็บตกนักท่องเที่ยวที่ยังหลงเหลือในอุทยานอีกไม่มาก
119 ตรงที่ขายตั๋วมีตารางรถบัสของอุทยานด้วย ตอนเช้าจะเริ่ม8โมงเช้า ตอนเย็นหน้าหนาวจะหมดเร็วที่5โมงเย็น หน้าไฮซีชั่นจะมีถึง6โมงครึ่ง  ส่วนช่วงเมษ.ที่เรามามีบัสกลับถึงตอนหกโมงเย็น
120 หน้าตาตั๋วทั้งสามใบ ค่าเข้าอุทยาน150 ค่าบัสภายในอุทยาน120และตั๋วรถไฟฟ้า80 รวมทั้งหมดคนละ350หยวน

[coming soon]

121 เข้าพักที่Page’s Tibetian Innที่สาวๆจองมาแล้วจากเมืองไทย เราเลยตามไปพักด้วย แต่ตอนลงจากบัสก็มีชาวบ้านเดินมาชวนไปดูที่พักด้วย ที่Pageค่าห้องคู่แชร์ห้องน้ำราคาคืนละ160หยวน มีห้องน้ำรวมแยกชายหญิง มีน้ำอุ่นให้อาบ แต่ห้องน้ำเป็นแบบในตำนานเล็กๆ คือกั้นคอกมีประตู แต่คอกและประตูเตี้ยแค่เอว เวลานั่งทำธุระก็หัวโผล่ จะเข้าห้องน้ำเล็งดีแล้วนะว่าไม่มีคน นั่งไปแพร๊บบบ มีคนมานั่งห้องข้างๆเป็นเพื่อน ไอ้เราก้มหัวงุดเลย
122 ทางโรงแรมเสนอทำอาหารให้สำหรับพวกเราสี่คน เป็นอาหาร3จาน และซุป1ถ้วย คิดหัวละ35หยวน ก็ยอมกินอย่างไม่มีทางเลือก ไม่ค่อยอร่อยนัก เน้นผัก มีหมูสามชั้นในกับข้าวอยู่ไม่กี่ชิ้น เราถ่ายแผนที่เที่ยวบนโต๊ะทานอาหาร
123 รุ่งเช้ามีอาหารเช้าบริการหัวละ20หยวน แต่ไม่ได้ใช้บริการ กินอาหารที่ตุนมาจากในเมืองแทน วันนี้เป็นวันสบายๆ เพราะปฏิบัติภารกิจเสร็จไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันนี้เหลือแค่เที่ยววัดชงกู่กับทะเลสาบไข่มุกเท่านั้น จึงตื่นกันสายๆ กว่าจะออกจากโรงแรมมาก็เก้าโมงกว่าๆแล้ว

[coming soon]

124 แบกเป้ติดหลังมาด้วย เนื่องจากเราเป้เล็ก แค่ไม่ถึง2กิโล เพื่อว่าตอนออกมาจะได้นั่งรถบัสไปปากทางอุทยานเลย โดยไม่ต้องแวะหมู่บ้านเพื่อเอาสัมภาระ รถบัสผ่านไปคันแรก คนขับไม่รับเนื่องจากเต็มมาจากต้นทางแล้ว ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์ที่มาเช้าเย็นกลับ ไม่มีใครแวะลงหมู่บ้าน เลยไม่มีที่ว่างรับผู้โดยสารเพิ่ม(รถอุทยานไม่อนุญาตให้โหน) คันต่อๆมาก็ไม่มีคันไหนรับ จนกระทั่งมีบัสฮีโร่ แล่นตีรถเปล่ากลับมารับพวกเรากับชาวจีนอีกกลุ่มหนึ่งที่หมู่บ้าน
125 บริเวณตรงจุดขายตั๋วรถไฟฟ้า วันนี้ฟ้าเน่ามากอย่างที่คิดไว้ โชคดีที่เปลี่ยนแผนเทรคไปทะเลสาบน้ำนมไปตั้งแต่เมื่อวาน ไม่งั้นวันนี้คงเสียใจแย่
126 เดินไปวัดชงกู่ใกล้ๆ แค่ประมาณ260เมตร

[coming soon]

127 ทางเดินทำไว้ดีมาก ชัดเจน
128 แถวนี้นกเยอะมากๆ
129 เลยกลายเป็นทัวร์ดูนกไปเลย

[coming soon]

130 แป๊บเดียวก็เดินมาถึงวัดชงกู่
131 ตอนนี้ยังบูรณะบริเวณภายในวัดอยู่เลย
132 องค์พระประธานภายในวัด