เยือนKinabalu ชมหลากหลายพันธุ์พืชบนTrus Madiยอดเขาสูงอันดับสองของมาเลย์เซีย

[coming soon]

Trus Madi เป็นยอดเขาที่สูงอันดับสองของมาเลย์เซีย รองจากคินาบาลู สูง2642เมตร ตั้งอยู่ในรัฐSabah เกาะBorneo (ยอดเขาสูงสามอันดับแรกของมาเลย์เซียอยู่ใกล้ๆกันในรัฐซาบาห์) เป็นยอดเขาที่มีความหลากหลายของสายพันธุ์พืชมาก ทั้งหม้อข้าวหม้อแกงลิง(pitcher plant)ที่มีถึงสามชนิดที่มีเฉพาะที่ทรุสมาดี คือ Nepenthes lowii ,Nepenthes macrophylla และ Nepenthes  trusmadiensis ที่เป็นhybridของสองพันธุ์แรก กล้วยไม้และดอกไม้ก็มีหลากหลายมาก รวมถึงป่ามอสดึกดำบรรพ์บนยอดที่สวยงามมาก เหมือนหลุดเข้าไปเดินในดินแดนเทพนิยาย จากบนยอดทรุสมาดี สามารถเห็นยอดคินาบาลูซึ่งอยู่ห่างไปทางเหนือประมาณ50กิโลเมตร
 ขอบคุณรูปภาพประกอบรีวิวจากเพื่อนๆร่วมทริปทุกท่าน

[coming soon]

1 การเดินขึ้นยอดทรุสมาดี มีทางขึ้น 3 route โดย Kaingaran Trail (Tambunan)จะเป็นรูทยอดนิยม เนื่องจากมีบ้านพัก และห้องครัวให้ทำอาหารได้ ทางเดินช่วงแรกก็เป็นทางไม้อย่างดี ส่วนMannan Trail (Keningau)จะเป็นตัวเลือกต่อมา เนื่องจากรถเข้าไปถึงแคมป์แรกได้เลย ไม่ต้องใช้4WDเหมือนอีกสองเส้นทาง แต่ระยะทางไกล และต้องนอนแคมป์ ส่วนMastan Trailเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างอันตราย จึงไม่เป็นที่นิยม
ที่มาข้อมูล: http://www.mysabah.com/wordpress/guide-to-climbing-mt-trusmadi/
2 เราติดต่อลุงธามไปตามคำแนะนำของเวปด้านบน เลือกKaingaran Trail แต่ลุงตอบกลับมาว่าทางมีLand slide รถ4WDไม่สามารถเข้าไปได้ ต้องเปลี่ยนมาเป็นเส้นมันนาน(Mannan Trail) ซึ่งเส้นทางยาวมาก ไปกลับประมาณ24กิโลเมตร และวันขึ้นยอด ต้องขึ้นถึง3ยอด ยอดแรกและยอดสองยังไม่ใช่ยอดจริง(ตามรูป) และหลังยอดจริง ยังต้องเดินย้อนไปทางเส้นKaingaranอีก300เมตรเพื่อขึ้นไปหอคอยชมวิวอีกด้วย
  ลุงธามจัดโปรแกรมให้สำหรับกรุ๊ปพวกเรา7คน โดยเทรคขึ้นเขาและพาไปล่องเรือชมลิงจมูกยาวด้วย  โปรแกรมรวมทุกอย่างตั้งแต่มารับที่สนามบินวันแรก ดูแลการเดินทางและอาหารระหว่างเทรคสามวัน และส่งกลับสนามบินวันสุดท้าย มีจ่ายเพิ่มแค่ค่าโรงแรมที่จองเองในวันแรกและวันก่อนกลับที่เราพักในเมืองคินาบาลูเท่านั้น
 ทริปนี้เดินทางช่วงในหยุดเข้าพรรษา26-30 ก.ค.61 โดยวันแรกและวันสุดท้ายเป็นการเดินทางเกือบทั้งวันจากกรุงเทพสู่เมืองคินาบาลู
3 วันแรกไปถึงคินาบาลูช่วงเย็นๆ ลุงธามมารับที่สนามบินพาไปส่งโรงแรมHotel Traveller ตรงใกล้ๆParkใจกลางเมือง  นัดหมายมารับพวกเราวันรุ่งขึ้นตอนตีห้า เข้าโรงแรมก็ลงมากินอาหารร้านใต้โรงแรมที่เคยมากินตอนมาปีนคินาบาลูสองครั้งก่อนเมื่อสิบปีกับแปดปีที่แล้ว ร้านเปิด24ชั่วโมง เดินไปกินโรตีร้านอิสลาม ที่คราวก่อนขอให้เขาโรยนมข้มบนโรตี เขางง เพราะโรตีของเขาไว้จิ้มแกงถั่ว อธิบายจนได้กิน มารอบนี้โรตีนมข้มอยู่ในเมนูเรียบร้อย ชื่อRoti Susu(ซู่ซู่แปลว่านม)

[coming soon]

4 ใกล้ๆโรงแรมก็มีศูนย์อาหารใหญ่ มีอาหารหลากหลายให้เลือก ซีฟู๊ดตัวเป็นๆก็มี
5 เดินไปnight food marketริมทะเล เห็นผลไม้แปลกๆหลายอย่าง มะม่วงที่ใหญ่มากเหมือนมะละกอ หรือทุเรียนสีแดงที่่ลองหาข้อมูลพบว่ามีเฉพาะที่เกาะบอร์เนียว
6  อาหารหลากหลายชนิดมาก

[coming soon]

7 กุ้งตัวใหญ่มากๆ Tiger prawn นี่ใหญ่จนนึกว่ากุ้งยักษ์
8 ของฝากพวกอาหารทะเลแห้งก็มีหลากหลาย เจอพวกที่ไม่คิดว่าจะเจอด้วย อย่าง ปลิง, ม้าน้ำ ,ครีบฉลามแห้ง
9 วันรุ่งขึ้น ออกเดินทางจากเมืองคินาบาลูตั้งแต่ตีห้า ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าขับขึ้นเขาลงเขากว่าจะมาถึงเมืองKeningau ลุงธามแวะให้ทานอาหารเช้ากันที่นี่ คุยกับลุง ลุงเล่าว่าก่อนนี้เคยเป็นไกด์ปีนเขา ขึ้นคินาบาลูมา500กว่าครั้ง ทรุสมาดี100กว่าครั้ง แล้วลุงก็ชี้ที่เข่าลุง บอกว่าที่เดินกระเผลกๆทุกวันนี้ก็เพราะขึ้นลงเขาตลอด บริษัทลุงจัดทัวร์หลายรูปแบบที่ซาบาห์ แวะเวปลุงได้ที่
 Website: www.tykadventuretours.com
E-mail: thamyaukong@gmail.com

[coming soon]

10 ออกเดินทางต่ออีกเกือบสองชั่วโมง เพื่อไปbase campที่สินัว(Sinau)
11 ที่Camp1 ลุงธามพาพวกเราไปเจอลุงเดนนิสบัดดี้ของแก จัดการลงทะเบียน ลุงเดนนิสแนะนำไกด์ทั้งสามคนของพวกเรา เป็นเด็กหนุ่มทั้งหมด ชื่อเช็ท ดิว และบรียานุส แอบดูในสมุดลงทะเบียน ส่วนใหญ่เป็นคนมาเลย์ในรัฐซาบาห์ ต่างชาติก็มีเยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ อาเจนติน่า ฯลฯ
12 สำรวจที่นอนในแคมป์ที่ต้องลงมานอนวันพรุ่งนี้ตอนลงมาจากยอดเขา เป็นผ้าใบขึงในแคร่ที่ค่อนข้างมั่นคงแข็งแรง มีมุ้งให้ด้วย

[coming soon]

13 ออกเริ่มเดินกันตอนประมาณสิบโมงครึ่ง ทางเดินช่วงแรกๆจะเป็นทางรถโฟร์วีล
14 สักพักมีข้ามสะพาน
15 มีช่วงนึงต้องข้ามลำธาร ตอนที่พวกเราไปเป็นdry season ฝนไม่ตกมาเกือบเดือนแล้ว น้ำตื้นมาก มีอีกที่ที่ต้องข้ามลำธาร อันนั้นเดิมข้ามหินไปได้เลย ไม่ต้องถอดรองเท้าลุยน้ำ

[coming soon]

16 ระหว่างทางก็เริ่มเจอpitcher plantบ้าง แต่เป็นพันธุ์ที่ขึ้นและพบเจอได้ทั่วๆไป
17 มีความหลากหลายของรูปร่างหม้อ
18 มีดอกไม้ประปรายสองข้างทาง

[coming soon]

19 ดอกสีสันสดใส
20 ทั้งหม้อ ทั้งกล้วยไม้ ไม้ใบ ไม้ดอก
21 ผลไม้แปลกๆที่ติดผลบนไม้ยืนต้นสูงๆ

[coming soon]

22 บีโกเนีย  หม้อข้าวหม้อแกงลิงพันธุ์Nepenthes fusca บัวแฉก และเมล็ดไม้ป่า
23 ทางเดินยาวไกลมาก
24 ช่วงใกล้Camp2 ทางจะเริ่มชันขึ้น มีบันไดให้ไต่บ้าง

[coming soon]

25 มีป้ายบอกระยะทางที่ห่างจากยอดเป็นระยะ เดินไปๆตัวเลขก็จะลดลง เริ่มจากที่แคมป์1ที่ห่างจากยอด11600m.
26 วันแรกใช้เวลาประมาณ6ชั่วโมงในการเดินระยะ8กิโลเมตรกว่าๆ ก็มาถึงCamp2
27 มีโรงนอนสองหลัง ห้องครัว และห้องทานอาหาร

[coming soon]

28 ที่นอนลักษณะเหมือนที่แคมป์ล่าง
29 ห้องอาหารวิว360องศา ห้องน้ำสะอาด
30  แอบส่องทางที่จะขึ้นยอดพรุ่งนี้ ต้องผ่านสองยอดก่อนที่จะถึงยอดจริง ระยะทาง4200m.

[coming soon]

31 ฟ้าหลากสียามเย็นที่แคมป์สอง
32 วันปีนยอด ตื่นตั้งแต่เที่ยงคืนกว่าๆ ทานอาหารที่แม่ครัวเตรียมไว้ให้ ก่อนเริ่มเดินประมาณตีหนึ่งครึ่ง มีแผ่นกระดาษสะท้อนแสงสีส้มติดนำทางไปตลอด ทางชันมากเป็นส่วนใหญ่ ต้องใช้มือเกาะเกี่ยวกิ่งไม้และรากไม้ดึงตัวตลอด(ลุงเดนนิสสั่งห้ามเอาtrekking poleวันขึ้นยอด เพราะต้องใช้มือดึงกิ่งไม้รากไม้เกือบตลอด) บางช่วงที่ชันมากๆก็จะมีบันไดอลูมิเนียมและเชือกพาดไว้ให้ดึงตัว มีป้ายบอกระยะที่จะถึงยอดทุก100m.
33  คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง และมีจันทรุปราคา มีโอกาสเงยหน้ามองพระจันทร์ตอนช่วงใกล้เช้า โดนบังเกือบมิดแล้ว ระหว่างทางที่ไฟฉายสาดส่อง แอบเห็นหม้อกระโถนพันธุ์โลวายอี้เป็นระยะ อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปไว้ กลัวกลับมาไม่เจอ(ไม่นึกว่ามันจะเยอะมากมายขนาดนี้)

[coming soon]

34 ถึงยอดประมาณหกโมงเช้า บนยอดไม่ค่อยมีอะไร ต้องเดินต่อไปหอคอยชมวิว
35 หอคอยชมวิวอยู่Kaingaran Trail ก่อนถึงยอด300m. นั่นคือเราต้องเดินย้อนกลับไปอีกทาง
36 หอชมวิวที่ทำจากอลูมิเนียม ขึ้นได้ครั้งละไม่เกิน6คนเพื่อชมวิวรอบๆ

[coming soon]

37 เห็นยอดเขาคินาบาลูอยู่ห่างไปทางเหนือประมาณ50กิโลเมตร
38 ชมวิว360องศา รอบๆหอคอย
39 ช่วงที่เดินจากยอดมาหอคอยชมวิว ป่าโบราณสวยมาก

[coming soon]

40 ทั้งๆที่ฝนไม่ตกมาเกือบเดือน มอสหลากสีก็ยังสดใสสะพรั่ง
41 เหมือนเดินอยู่กลางป่าในเทพนิยาย
42 มอสเขียว เหลือง แดง ส้ม มีครบ