เยือนKinabalu ชมหลากหลายพันธุ์พืชบนTrus Madiยอดเขาสูงอันดับสองของมาเลย์เซีย

[coming soon]

88 บางมุมก็คล้ายโถชักโครก ตอนปิดฝา เปิดฝา
89 ด้านในสีแดงจัด
90 ถึงขนาดจะไม่ใหญ่ยักษ์เท่ามาโครฟิลล่า แต่โลวายอี้ก็ใหญ่พอตัว เมื่อเทียบกับฝ่ามือ

[coming soon]

91 Nepenthes trusmadiensis เป็น hybrid ระหว่าง Nepenthes lowii และ Nepenthes macrophylla เป็นหม้อเฉพาะถิ่นที่ทรุสมาดี และหายากมาก ในขณะที่สองพันธุ์นั้นเจอตลอดสองข้างทาง แต่พันธุ์นี้เจอต้นนี้ต้นเดียว ลักษณะเด่นคือที่ปากหม้อจะมีสีเหลืองสลับสีแดง
92  pitcher plant ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด มีหลายต้นที่ติดดอกติดผลแล้ว พันธุ์ที่หายากๆก็มีนักพฤษศาสตร์นำไปขยายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
93 นอกจากหม้อก็ยังมีกล้วยไม้งามๆตลอดสองข้างทาง

[coming soon]

94 ช่อนี้สวยเหงาๆ
95 ดอกนี้เหมือนสัตว์ร้าย มีสองเขี้ยวใหญ่ตรงกลาง
96 ดอกเดี่ยว ดอกคู่ก็มี

[coming soon]

97 ช่อระย้า หลากลวดลายและสีสัน
98 กอนี้เท่ห์มาก ต้นสีแดง ใบสีเขียว ดอกสีเหลือง
99 ชูช่อสะพรั่ง สีสวยหวาน

[coming soon]

100 ดอกนี้พบได้เรื่อยๆตลอดข้างทาง
101 ดอกเล็กๆอัดแน่นเต็มช่อ
102 ดอกส้มสวยงาม

[coming soon]

103 อยู่ร่วมในป่ามอสอย่างกลมกลืน
104 เหล่ากล้วยไม้ดิน
105 ชูช่อท้าแสง

[coming soon]

106 ห้อยระย้า
107 ดอกเล็กสีเหลืองอ่อน ทั้งพันธุ์ช่อสั้นและช่อยาว
108 มีความหลากหลายของสายพันธุ์มาก

[coming soon]

109 มีทั้งช่อเดียว และแตกช่อทั้งกอ
110 ดอกไม้ใกล้ๆยอดก็มีหลากหลาย ดอกสีส้มอ่อนบอบบาง อยุ่บนยอดไม้ไกลลิบ ดอกสีชมพูเข้มอยู่ข้างๆทางเดิน
111 บนพื้นก็มีดอกสีสันสดใส

[coming soon]

112 ดอกที่มาเป็นกอ
113 ดอกเรี่ยๆพื้น
114 ผลไม้ เห็ดราก็มี

[coming soon]

115 ดอกเล็กดอกน้อยเต็มสองข้างทางไปหมด
116 ชูช่อสีเหลืองสดใส
117 มาดูเทรลกันบ้าง ช่วงจากแคมป์สองขึ้นยอดทางชันตลอด ไม่ต้องใช้ไม้เท้า เพราะต้องใช้มือเกาะเกี่ยวกิ่งไม้ รากไม้ เกาะราวบันได ดึงเชือกตลอด

[coming soon]

118 ช่วงที่ชันมากๆจะมีตัวช่วยเป็นบันได และราวเชือก
119 ทางชันอย่างนี้เป็นส่วนใหญ่
120 บันไดมีทั้งจากไม้ที่ตัดเอาในป่า และบันไดอลูมิเนียมที่มาพาดและมัดไว้อย่างดีพร้อมเชือกให้โหนตัวไป

[coming soon]

121 นอกจากทางจะชันแล้ว ยังต้องผ่านยอดระหว่างทางอีกสองยอดก่อนถึงยอดจริง ตอนผ่านยอดแรก ทางดิ่งลงมากก่อนจะสอยสูงขึ้นสู่ยอดที่สอง จากยอดสองไปยอดจริงไม่ค่อยชันมากแล้ว
122 หมดช่วงทางชันๆ ก็ต่อด้วยทางไม่ชันมากแต่เดินกันยาวๆ ระหว่างทางก็ยังเห็นคินาบาลูด้วย
123 สอดส่ายสายตาหาหลังคาแคมป์ตลอดการเดิน พ้นโค้งก็เป็นทางเดินต่อ กว่าจะถึงแคมป์สองก็บ่ายโมงกว่าๆ ใช้เวลา12ชั่วโมงตั้งแต่ออกจากแคมป์จนกลับมา พักแป๊บนึงก็ยังต้องเดินลงต่อแคมป์หนึ่งอีก

[coming soon]

124 แวะเล่นน้ำตรงน้ำตกที่ลำธารก่อนกลับถึงแคมป์ตอนหกโมงเย็น ใช้เวลา16ชั่วโมงกว่าๆตั้งแต่ออกจากแคมป์สอง จนกลับมาถึงแคมป์หนึ่ง ลุงธามมารอพวกเราแล้ว จัดการแสดงฆ้องวงและrice wine(คล้ายๆข้าวหมากบ้านเรา)ไว้ต้อนรับ ต้องมีบางคนในกลุ่มยอมดูดไวน์ข้าวขาวของลุงนิดหน่อยเพื่อไม่ให้แกเสียน้ำใจ การแสดงก็ไม่อยากดู ง่วงนอนมาก ต้องมีตัวแทนอยู่ดู ที่เหลือแอบกลับไปนอน ที่นอนเป็นแคร่เหมือนแคมป์สอง แต่มีมุ้งกันยุงให้ด้วย เพราะแคมป์นี้มีบึงใหญ่ มีห้องน้ำสี่ห้อง
125 วันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้าก็ออกเดินทางก่อนแปดโมงเช้า ลุงธามพาไปTenom บ้านเกิดแก ขับรถไปประมาณสองชั่วโมง พาเราไปเดินตลาดนัดsunday market ตลาดบ้านๆที่มีของขายสารพัด ได้ลองอาหารอร่อยๆแปลกๆหลายอย่าง
126 ของสดของแห้งมีครบ

[coming soon]

127 แม่ค้าขายของไปเลี้ยงลูกไปด้วย เห็นไกวเปลที่แขวนจากด้านบน กดขึ้นลงแนวดิ่ง แปลกตาดี ไม่เคยเห็น
128 แวะโรงงานกาแฟอันเป็นสินค้ามีชื่อของTenom เป็นพันธุ์โรบัสต้า ได้รางวัลมาแล้วมากมาย
129 ขับรถต่อไปอีกชั่วโมงครึ่งที่เมืองSipitang เมืองริมทะเลติดชายแดนบรูไนเพื่อกินสะเต๊ะเป็นมื้อกลางวัน

[coming soon]

130 เมืองเล็กๆน่ารักริมทะเล
131 นั่งรถต่อมาอีกสองชั่วโมงเพื่อมาล่องเรือดูลิงจมูกยาว(Proboscis monkey)ที่แม่น้ำเคลียส(Klias River) มีcoffee break ให้ทานขนมและจิบกาแฟกันก่อน
132 ช่วงนี้พระจันทร์เต็มดวง น้ำเต็มตลิ่ง